Monthly Archive: November 2018

หอคอย N Seoul Tower หรือ Namsan Seoul Tower ส่วนอีกชื่อหนึ่งคือ Seoul Tower เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งคุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้มาเยือนกรุง Seoul โดยมันเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมทิวทัศน์ของกรุง Seoul จากมุมสูงได้โดยรอบแบบ 360 องศา ความงดงามของแสงไฟที่เปล่งประกายระยิบระยับในตอนกลางคืนมันชวนให้เคลิบเคลิ้มเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี Namsan ก็เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความสุดแสนสวยงามและโรแมนติก เนื่องจากถนนแห่งนี้จะเรียงรายไปด้วยต้นไม้ใหญ่ตลอด 2 ข้างทาง กิ่งก้างใบโน้มเข้าหากันพร้อมก่อให้เกิดเป็นร่มเงา ช่วยรองรับแสงอันร้อนแรงของดวงอาทิตย์ ให้ส่องลอดลงมาเพียงบางเบา บางจุดมีต้นเมเปิ้ลผลิใบสีแดงเรียงตัวสลับกับใบแปะก๊วยสีเหลืองอร่าม ราวกับงานศิลปะที่มีผู้ใดไปเติมแต่ง แต่ความจริงแล้วมันเกิดจากความงดงามของธรรมชาติโดยแท้ ภายใต้ท้องฟ้าสีสันสดใสปราศจากเมฆหมอกมาบดบัง สวยเกินคำบรรยาย คุณต้องลองมาชมด้วยตาตัวเองเท่านั้น เพราะถึงจะอธิบายอย่างไรไปก็ไม่เท่าดูด้วยตาตัวเอง ถ้าหากคุณได้มีโอกาสไปเยือนกรุง Seoul ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ห้ามพลาดขึ้นไปชมความงามจาก N…
Read more

ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้เมื่อเวลานำพาสิ่งเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปทุกอย่างก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่อาจถูกจารึกไว้ทั้งในด้านดีหรือไม่ดีก็ตามแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร สำหรับเรื่องราวของกีฬาโอลิมปิกกับประเทศในแถบทวีปเอเชียต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหลายๆ ประเทศของเอเชียในอดีตนั้นยังถือว่าเป็นประเทศที่ไมได้มีพลังอำนาจมากพอที่จะทำให้พวกยุโรปหรือสหรัฐฯ เข้ามาสนใจในเรื่องเกี่ยวกับความสามารถของประเทศจึงทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่เกิดขึ้นมักจะเป็นการจัดเจ้าภาพในทวีปยุโรปหรืออเมริกามากกว่า จนกระทั่งประวัติศาสตร์ต้องจารึกการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของประเทศในเอเชียได้เป็นประเทศแรก นั่นก็คือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น หรือ Tokyo 1964 ประวัติศาสตร์กีฬาโอลิมปิกยุคแรกของประเทศญี่ปุ่น อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นคือประเทศที่พัฒนาแล้วเพียงไม่กี่ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย นั่นจึงทำให้ญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพสำหรับจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกบนผืนแผ่นดินเอเชียด้วยความพร้อมที่ประเทศนี้มีครบหมดทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ผู้คน การคมนาคม ทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วแต่เป็นตัวจุดประกายสำคัญที่ทำให้รู้สึกว่าประเทศในทวีปเอเชียก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใครเหมือนกัน สำหรับประเทศญี่ปุ่นเองการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี 1964 ถือว่าเป็นการจัดการแข่งขันที่มากกว่าแค่เรื่องของกีฬานอกจากนี้ยังถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างมากของญี่ปุ่นนับตั้งแต่พวกเขาประกาศยอมแพ้ในสงรามโลกครั้งที่ 2 จากช่วงเวลาที่พวกเขาใช้ไม่ถึง 20 ปีในวันนั้นก็สามารถพัฒนาประเทศของตนเองจนทำให้นานาประเทศให้การยอมรับพวกเขาอีกครั้งหนึ่งว่าพวกเขาได้เตรียมตัวกลับมาแสดงความยิ่งใหญ่ให้โลกได้เห็นอีก จึงไม่แปลกที่พิพิธภัณฑ์โอลิมปิกแทบทุกแห่งจะต้องมีการบันทึกเรื่องราวเหล่านี้เอาไว้ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการบันทึกเอาไว้อย่างไรเท่านั้นเอง ทว่าสุดท้ายแล้วเมื่อญี่ปุ่นเป็นคนเปิดตำนานความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขนผืนแผ่นดินเอเชีย เป็นตำนานที่ยังคงสามารถเล่าขานกันได้อีกนานแสนสนาน แม้ในอดีตญี่ปุ่นจะเคยถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกตั้งแต่ปี 1936 กับ 1940 แต่พวกเขากลับไม่เคยได้จัดการแข่งขันจริงขึ้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียวเนื่องจากว่ามีสงครามที่เดิมทีพวกเขาคาดการณ์ว่าน่าจะจบเร็ว แต่เมื่อเอาจริงมันกลับไม่เป็นอย่างที่ตัวเองตั้งความหวังเอาไว้ทั้งหมดเลยทำให้การจัดการแข่งขันโอลิมปิกบนแผ่นดินซามูไรถูกเลื่อนออกไปและท้ายที่สุดก็ได้จัดสมใจในปี 1964 นี่เอง ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ชาวเอเชียทุกคนต่างก็ต้องปรบมือให้กับความสามารถของพวกเขาอย่างแท้จริง